เมนู

3. อเหตุกธรรม อาศัยสเหตุกธรรมและอเหตุกธรรม
เกิดขึ้น เพราะนอารัมมณปัจจัย

คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสเหตุกธรรม และ
มหาภูตรูปทั้งหลาย.
จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคต
ด้วยอุทธัจจะ และโมหะ.

3. นอธิปติปัจจัย ฯลฯ 7. นอุปนิสสยปัจจัย


[49] 1. สเหตุกธรรม อาศัยสเหตุกธรรม เกิดขึ้น เพราะ
นอธิปติปัจจัย เหมือนกับสหชาตปัจจัย ในอนุโลม.

ฯลฯ เพราะนอนันตรปัจจัย
ฯลฯ เพราะนสมนันตรปัจจัย
ฯลฯ เพราะนอัญญมัญญปัจจัย
ฯลฯ เพราะนอุปนิสสยปัจจัย

8. นปุเรชาตปัจจัย


[50] 1. สเหตุกธรรม อาศัยสเหตุกธรรม เกิดขึ้น เพราะ
นปุเรชาตปัจจัย

คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นสเหตุกธรรม ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นสเหตุกธรรม ฯลฯ

2. อเหตุกธรรม อาศัยสเหตุกธรรม เกิดขึ้น เพราะ
นปุเรชาตปัจจัย

คือ นอรูปภูมิ โมหะ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ
อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ.
จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสเหตุกธรรม.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
3. สเหตุกธรรม และอเหตุกธรรม อาศัยสเหตุกธรรม
เกิดขึ้น เพราะนปุเรชาตปัจจัย

คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ 3 และโมหะ อาศัยขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วย
วิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ ฯลฯ ขันธ์ 2 อาศัยขันธ์ 2.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
4. อเหตุกธรรม อาศัยอเหตุกธรรม เกิดขึ้น เพราะ
นปุเรชาตปัจจัย

คือ ในอรูปภูมิ ฯลฯ อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นอเหตุกธรรม ฯลฯ อาศัย
ขันธ์ 2.
จิตตสมุฏฐาน อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอเหตุกธรรม.
จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วย
อุทธัจจะ.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ พึงให้พิสดาร ตลอดถึงอสัญญสัตว์.
5. สเหตุกธรรม อาศัยอเหตุกธรรม เกิดขึ้น เพราะ
นปุเรชาตปัจจัย

คือ ในอรูปภูมิ สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย อาศัยโมหะ ที่สหรคตด้วย
วิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ.
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสเหตุกธรรม อาศัยหทยวัตถุ.
6. สเหตุกธรรม และอเหตุกธรรม อาศัยอเหตุกธรรม
เกิดขึ้น เพราะนปุเรชาตปัจจัย

คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสเหตุกธรรม อาศัยหทัยวัตถุ.
กฏัตตารูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย.
7. สเหตุกธรรม อาศัยสเหตุกธรรม และอเหตุกธรรม
เกิดขึ้น เพราะนปุเรชาตปัจจัย

คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่
สหรคตด้วยอุทธัจจะ และโมหะ ฯลฯ ขันธ์ 2 อาศัยขันธ์ 2.
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นสเหตุกธรรม และ
หทยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ 2 อาศัยขันธ์ 2.
8. อเหตุกธรรม อาศัยสเหตุกธรรม และอเหตุกธรรม
เกิดขึ้น เพราะนปุเรชาตปัจจัย

คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสเหตุกธรรม และ
มหาภูตรูปทั้งหลาย.
จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลาย ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่
สหรคตด้วยอุทธัจจะ และโมหะ.
9. สเหตุกธรรม และอเหตุกธรรม อาศัยสเหตุกธรรม
และอเหตุกธรรม เกิดขึ้น เพราะนปุเรชาตปัจจัย.

คือ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นสเหตุกธรรม และ
หทยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ 2 อาศัยขันธ์ 2.
กฏัตตารูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสเหตุกธรรม และมหาภูตรูป
ทั้งหลาย.

9. นปัจฉาชาตปัจจัย 10. นอาเสวนปัจจัย


[51] 1. สเหตุกธรรม อาศัยสเหตุกธรรม เกิดขึ้น เพราะ
นปัจฉาชาตปัจจัย

ฯลฯ เพราะนอาเสวนปัจจัย.

11. นกัมมปัจจัย


[52] 1. สเหตุกธรรม อาศัยสเหตุกธรรม เกิดขึ้น เพราะ
นกัมมปัจจัย

คือ เจตนาที่เป็นสเหตุกธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสเหตุกธรรม.
2. อเหตุกธรรม อาศัยอเหตุกธรรม เกิดขึ้น เพราะ
นกัมมปัจจัย

คือ เจตนาที่เป็นอเหตุกธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอเหตุกธรรม.
พาหิรรูป...อาหารสมุฏฐานรูป...อุตุสมุฏฐานรูป ฯลฯ
3. สเหตุกธรรม อาศัยอเหตุกธรรม เกิดขึ้น เพราะ
นกัมมปัจจัย